วิหารหลวงพ่อโต พรหมรังสี อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
ประวัติความเป็นมาของอุทยานมหาวิหาร สมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เริ่มจาก คุณสรพงศ์
ชาตรี เป็นพุทธมามกะ ผู้ซึ่งได้ปฎิบัติธรรมกับพระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญวิเวก จ.เชียงใหม่ ซึ่งพระอาจารย์ได้แนะนำคุณ สรพงศ์ ชาตรี ให้ไปอธิษฐานจิตขอพรบารมีสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี)วัดระฆังฯ แล้วการงานทุกอย่างที่กังวลอยู่จะสำเร็จดังประสงค์ทุกประการ เพราะหลวงปู่โต มีลูกหลานเป็นเทพบุตรเทพธิดา จะได้พากันมากราบไหว้บูชาสักการะและช่วยให้งานนั้นๆสำเร็จดังปรารถนา คุณสรพงศ์ ชาตรีจึงได้ไปอธิษฐานจิต ขอบารมีตตามที่พระอาจารย์แนะนำ พร้อมทั้งจะจัดสร้างรูปเหมือนหลวงปู่ จึงไปปรึกษาหลวงพ่อพระครูปลัดนุตร์ รัตนวิชโย ซึ่งปฎิบัติธรรมอยู่ที่วัดปักแม่ลาย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งท่านแนะนำให้จัดสร้างรูปเหมือนองค์ใหญ่ที่สุดในโลก จึงคิดถึงพิธีการหล่อรูปเหมือนหลวงปู่โต ด้วยเหตุนี้ จึงได้ประกอบพิธีเททองหล่อส่วนองค์หลวงปู่เสร็จเรียบร้อยเมื่อวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๓ รูปหล่อองค์สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี)หน้าตักกว้าง ๘ เมตร ๑ นิ้ว สูง ๑๓ เมตร หนัก ๖๑ ตันค่าก่อสร้าง ๙ ล้านบาทเศษ และได้จัดสร้างมหาวิหารเป็นแบบกุฎาคาร (เรือนยอดเจดีย์เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูป)ขึ้นถวาย พร้อมทั้งซื้อที่ดินประมาณ ๑๕๐ ไร่ และจัดภูมทัศน์ส่วนต่างๆตามความเหมาะสม
การเดินทาง
วิหารหลวงพ่อโต ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพฝั่งขาเข้าโคราช ในเขตอำเภอสีคิ้ว อย่างห่างจากตัวเมืองโคราชประมาณ 45 กิโลเมตร ถ้าเดินทางจาก กทม.ไปทางอีสาน ก่อนถึงโคราช 45 กม.ในเขต อ.สีคิ้ว ตามถนนมิตรภาพฝั่งเข้าเมืองโคราชจากกรุงเทพ พอถึง อำเถอสีคิ้ว ขับรถผ่านตัวเมืองมาประมาณ 1 กม. จะเห็นได้แต่ไกล เพราะมหาวิหารหลังใหญ่มากวิหารหลวงพ่อโต อยู่ด้านช้ายมือ หากเดินทางมาจากโคราช ตามถนนมิตรภาพ ต้องไปกลับรถในตัวเมืองสีคิ้วเพื่อกลับเข้าเมืองโคราชออกจากตัวเมืองประมาณ 1 กม. วิหารหลวงพ่อโตอยู่ด้านช้ายมือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น